ถ้าพูดถึง "ขนมครก" ใครๆก็จะนึกถึง ขนมที่เป็นทรงถ้วยเล็กๆ ที่มีกะทิเป็นส่วนผสมหลักและมีฐานที่บางกรอบ โรยหน้าด้วยต้นหอมซอย ข้าวโพด เผือก ฝักทอง ฯลฯ แต่ในบล็อกนี้จะพูดถึง "ขนมครกสิงคโปร์" ซึ่งจะมีน้อยคนที่จะรู้จัก แต่ถ้าบอกว่าขนมสีเขียว หอมกลิ่นใบเตย รูปดอกไม้ เชื่อว่าจะต้องมีคนรู้จักมากขึ้น ขนมครกสิงคโปร์มีเอกลักษณ์ตรงที่รสชาติกลมกล่อม มีกลิ่นหอมใบเตย สีสันสวยงาม ตัวขนมจะมีลักษณะเหนียวนุ่มน่ารับประทาน ดูเหมือนจะทำยากแต่ขอบอกเลยว่าง่ายแสนง่ายค่ะ
วัสดุอุปกรณ์
- กระทะที่เป็นหลุมๆ และมีฝาปิด (ถ้ากระทะไม่มีฝาใช้ฝาหม้ออื่นก้อได้คะ ที่ปิดได้สนิท มีรูระบายอากาศ และไม่สูงมากค่ะ ไม่งั้นขนมจะออกมาไม่สวยนะคะ)
- เตาแก๊ส
- ไม้แคะ (ไม้จิ้มลูกชิ้น)
- เหยือก หรือ กาน้ำ (สำหรับหยอดขนม)
- ถาด
- ตะแกรง (ไว้พักขนม)
- ถ้วยตวงและช้อนตวง
- กะละมังสแตนเลส
ส่วนผสม
- แป้งเค้ก (ตราพัดโบก) 1 1/2 ถ้วยตวง
- แป้งมัน 3/4 ถ้วยตวง
- ผงฟู 1 1/2 ช้อนชา
- น้ำตาลทราย 1 ถ้วยตวง
- เกลือ 1/2 ช้อนชา
- กะทิ 1/2 ถ้วยตวง
- น้ำใบเตยคั้นเข้มข้น 1 1/2 ถ้วยตวง
- ไข่ไก่ 6 ฟอง
- กลิ่นใบเตย 1 ช้อนชา
วิธีทำ
- ร่อนแป้งเค้ก แป้งมัน และผงฟู ไว้ในกะละมังสแตนเลส เพื่อให้อากาศเข้าไปในแป้ง ทำให้แป้งมีความเบาขึ้น
- นำใบเตยหอมมาล้างน้ำให้สะอาด แล้วหั้นเป็นท่อนเล็กๆ นำไปปั่นให้ละเอียด นำมาคั้นกับน้ำ(ใบเตยหอม 1 กก.ต่อ น้ำ 3 ลิตร) และกรองด้วยผ้าขาวบาง เพื่อเอากากออก
- นำน้ำตาลทรายใส่ลงในแป้ง ตามด้วยเกลือนิดหน่อย ใช้มือเคล้า ๆ พอให้ทั่ว ใส่ไข่ไก่ตามลงไปในแป้ง ใช้มือนวดเบา ๆ พอให้ส่วนผสมเข้ากัน แล้วค่อย ๆ ใส่น้ำกะทิ ตามลงไปทีละน้อย เสร็จแล้วจึงใส่น้ำคั้นใบเตย และกลิ่นใบเตย ใช้ทัพพีคนไปเรื่อย ๆ จนนำตาลละลายและส่วนผสมเข้ากันดี ตั้งพักไว้ประมาณ 20 นาที
- ระหว่างรอให้แป้งเซ็ตตัว ให้นำกระทะสำหรับทำขนมมาเตรียมไว้ ตั้งไฟให้ร้อนจัด ใช้แปรงหรือผ้าจุ่มน้ำมันพืชหรือเนย ทาให้ทั่ว (เพื่อช่วยให้ขนมร่อนและไม่ติดพิมพ์)
- พอกระทะร้อนดีแล้วตักแป้งใส่กาน้ำที่ถนัดมือ แล้วทำการหยอดแป้งลงในพิมพ์แต่ละช่องให้เกือบเต็มหลุมหรือประมาณ 3/4 ของหลุม ปิดฝาจนขนมสุก ใช้ไฟอ่อน ๆ ประมาณ 2-3 นาที (ถ้าใช้ไฟแรงขนมจะไหม้เสียหมด) ไม่ต้องกลับด้านเพราะขนมจะสุกทั่วได้เอง พอขนมสุกจะฟู ใช้ไม้หรือเหล็กแซะแคะขนมออกจากหลุมมาแผ่ไว้บนตะแกรงที่เตรียมไว้ รอให้ขนมพออุ่น ๆ (การหยอดแป้งครั้งต่อไปไม่ต้องใช้น้ำมันหรือเนยเช็ดพิมพ์แล้ว)
เป็นไงคะ เพียงแค่นี้เราก็ได้ขนมนุ่มๆ หอมกลิ่นใบเตย ทานกับกาแฟหรือน้ำชา ยามว่างได้ง่ายๆ ด้วยฝีมือของเราเอง แล้วนะคะ ขนมครกสิงคโปร์เรายังสามารถดัดแปลงให้เป็นรสอื่นได้อีกมากมาย ทั้งรสกาแฟ โกโก้ นมข้าวโพด บลูเบอร์รี่ ฯลฯ แล้ววันหลังจะนำรูปมาพรีวิวให้ชมนะคะ หวังว่าเพื่อนๆคงจะนำไปลองทำดูนะคะ ผลออกมาเป็นไงมาบอกด้วยนะคะ




ไข่ 6 ฟ. ???!!???!!
ตอบลบใช่ค่ะ ใช้ไข่6 ฟอง ถ้าใช้น้องกว่านั้น จะทำให้ขนมไม่ฟู นุ่มตามที่ต้องการค่ะ
ลบถ้าอยากให้กรอบนอกนุ่มในด้วยจะต้องทำยังไงค่ะ
ตอบลบสามารถทำให้ฐานกรอบได้ค่ะ เพียงใช้ไฟอ่อน แล้วลองใช้ปลายไม้จิ้มหรือแซะด้านข้างเบาดูค่ะ ถ้ารู้สึกเริ่มแข็งก็ใช้ได้ค่ะ
ลบต้องใช้แป้งเค้กเหรอค้ะ ถ้าใช้แป้งสาลีเอนกประสงค์ล่ะค้ะ จะให้รสชาติเหมือนกันไหมค้ะ
ตอบลบ11/2คืออะไรค่ะ
ตอบลบ